สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน โพสต์นี้อาจจะมาแปลกสักหน่อย ไม่ได้เกี่ยวกับเครื่องสำอาง หรือไลฟ์สไตล์ แต่เกี่ยวกับการอบรมที่โกโก้ได้ไปสัมมนามาค่ะ คอร...
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน
โพสต์นี้อาจจะมาแปลกสักหน่อย ไม่ได้เกี่ยวกับเครื่องสำอาง หรือไลฟ์สไตล์ แต่เกี่ยวกับการอบรมที่โกโก้ได้ไปสัมมนามาค่ะ
คอร์สที่ไปอมรมมานั้นชื่อว่า Arts and Feelings of Presentation สุนทรียภาพแห่งการพูดและการนำเสนอ โดยวิทยากร จิตรสุมาลย์ อมาตยกุล (อาจารย์ตวง) ผู้มีประสบการณ์ในการอบรมศิลปะการพูดการนำเสนอระดับผู้นำให้กับองค์กรและสถาบันต่างๆ และรับปรึกษาเรื่องการพูดการนำเสนอรายบุคคล
คอร์สนี้ระยะเวลา 2 วัน Techyladygogo ได้ไปร่วมรุ่นแรกของปี 2557 วันเสาร์ที่ 22 - วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ สุขุมวิท 11
ใครก็พูดได้ แต่การพูดอย่างมีศิลปะ และประทับใจผู้ฟังนั้น มันต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ คอร์สนี้ ทำให้ดิชั้นได้เข้าใจตัวเองเบื้องลึกไปถึงในจิตใจสมัยเด็ก ซึ่งส่งผลมาถึงบุคคลิกภาพของตัวเองในวันนี้
การพูดนั้นหากเรามัวแต่โฟกัสที่คำพูด ทำให้การสื่อสารพลาดไปได้มากทีเดียว ดิชั้นได้รู้จากคอร์สนี้ว่า คำพูดนั้นมีผลแค่ 7% ของการสื่อสารเท่านั้น แล้วอีก 93% คืออะไร คอร์สนี้ทำให้ดิชั้นเข้าใจและนำไปใช้ได้มากทีเดียว
คนดูนั้นชอบดูโชว์ พรีเซนท์ที่มีสีสัน ควรนำ สัมผัสทั้งหมดที่ต้องการสื่อมาเล่าเป็นคำพูดให้ได้ เพราะสมองมนุษย์ของคนเรานั้นมีสองซีก ทำงานร่วมกันอย่างน่าอัศจรรย์
การพูดนั้นเรายังควรต้องจัดระเบียบความคิด และต้องเข้าใจว่าคนฟังจะสนใจจดจำสิ่งที่เราพูดออกไปอย่างสั้นย่อกระชับได้ความหมาย ดังนั้นเนื้อหาที่จะสื่อออกไปควรเน้นเฉพาะ 3 ประเด็นก็เพียงพอจะทำให้ผู้ฟังจดจำได้ง่ายกว่าพูดหลายประเด็น
และยิ่งไปกว่านั้นถ้าผู้พูดคิดเป็นภาพพูดจากภาพในใจจะทำให้พูดด้วยอารมณ์ความรู้สึกผู้ฟังก็จะได้อารมณ์ความรู้สึกตามไปด้วย อันนี้สำคัญมากสำหรับดิชั้น เพราะว่าแต่ก่อนเวลาพูดชอบท่องสคริปต์ แต่หลังจากนึกสิ่งที่ต้องพูดเป็นภาพ และประเด็นที่ต้องการสื่ออกไป ทำให้พูดได้เป็นธรรมชาติและเข้าใจง่ายขึ้น
ผู้พูดจะมีเสน่ห์มากขึ้นถ้าทำให้การเล่าเรื่องสนุกคล้ายกับชวนผู้ฟังดูภาพยนตร์...แน่นอนภาพยนตร์แต่ละเรื่องก็มีพระเอกผู้ร้ายให้เราลุ้นตอนจบว่าจะลงเอยอย่างไร
ผู้ร้ายเปรียบเสมือนปัญหาหรือสถานการณ์ขณะนั้นพระเอกก็เหมือนกับแนวทางการแก้ปัญหาส่วนจะลงเอยอย่างไรนั้นตอนจบคือผลลัพธ์หลังจากแก้ปัญหานั้นแล้วสุดท้ายอาจทิ้งท้ายให้ท่านผู้ฟังขบคิดว่าจะนำไปทำอะไรต่อไป
ในคอร์สนี้นั้น ได้พบกับผู้เข้าเรียนที่มีหลากหลายพื้นฐานการพูด ตั้งแต่พูดเก่งมาก จนกระทั่งเขินมากขนาดเป็นลมเลยก็มี แต่ทุกคนล้วนเป็นกันเองให้กำลังใจ วิจารณ์แบบสร้างสรรค์ พร้อมทั้งได้รับคำแนะนำดี ๆ จากอาจารย์ทุกช่วงอีกด้วย
บทสรุป
การพัฒนาตัวเองในแต่ละด้านนั้น ยังมีที่ให้พัฒนาได้เสมอ การได้เข้าอบรมนี้ทำให้ดิชั้นได้ทราบว่า การพูดของดิชั้นที่ถือว่าโอเคระดับหนึ่งแล้วนั้น ยังสามารถพัฒนาได้อีกหลายด้าน สามารถใส่สีสัน ลูกเล่น และเข้าใจคนดู พร้อมทำให้คนดูจดจำเราได้มากขึ้น สามารถนำไปใช้ทั้งในชีวิตประจำวัน การทำงาน และการทำวีดีโอรีวิวได้ด้วยค่ะ ใครที่ต้องการพัฒนาตนเองในด้านการพูด ได้พบกับอาจารย์ที่มีความสามารถ และได้พบเพื่อนใหม่จากหลากหลายวงการ ลองเข้าไปดูรายละเอียดคอร์สดูได้นะคะ...
ถ้าคุณสามารถพรีเซนต์ให้มะนาวในจินตนาการ เปรี้ยวปากและชุ่มฉ่ำได้แล้วละก็ คุณก็ผ่านคอร์สนี้ได้แบบ Juicy and Jazz!!
พบกันใหม่ Post หน้าค่ะ สวัสดี
โพสต์นี้อาจจะมาแปลกสักหน่อย ไม่ได้เกี่ยวกับเครื่องสำอาง หรือไลฟ์สไตล์ แต่เกี่ยวกับการอบรมที่โกโก้ได้ไปสัมมนามาค่ะ
คอร์สที่ไปอมรมมานั้นชื่อว่า Arts and Feelings of Presentation สุนทรียภาพแห่งการพูดและการนำเสนอ โดยวิทยากร จิตรสุมาลย์ อมาตยกุล (อาจารย์ตวง) ผู้มีประสบการณ์ในการอบรมศิลปะการพูดการนำเสนอระดับผู้นำให้กับองค์กรและสถาบันต่างๆ และรับปรึกษาเรื่องการพูดการนำเสนอรายบุคคล
คอร์สนี้ระยะเวลา 2 วัน Techyladygogo ได้ไปร่วมรุ่นแรกของปี 2557 วันเสาร์ที่ 22 - วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ สุขุมวิท 11
จิตรสุมาลย์ อมาตยกุล (อาจารย์ตวง) |
การพูดนั้นหากเรามัวแต่โฟกัสที่คำพูด ทำให้การสื่อสารพลาดไปได้มากทีเดียว ดิชั้นได้รู้จากคอร์สนี้ว่า คำพูดนั้นมีผลแค่ 7% ของการสื่อสารเท่านั้น แล้วอีก 93% คืออะไร คอร์สนี้ทำให้ดิชั้นเข้าใจและนำไปใช้ได้มากทีเดียว
คนดูนั้นชอบดูโชว์ พรีเซนท์ที่มีสีสัน ควรนำ สัมผัสทั้งหมดที่ต้องการสื่อมาเล่าเป็นคำพูดให้ได้ เพราะสมองมนุษย์ของคนเรานั้นมีสองซีก ทำงานร่วมกันอย่างน่าอัศจรรย์
การพูดนั้นเรายังควรต้องจัดระเบียบความคิด และต้องเข้าใจว่าคนฟังจะสนใจจดจำสิ่งที่เราพูดออกไปอย่างสั้นย่อกระชับได้ความหมาย ดังนั้นเนื้อหาที่จะสื่อออกไปควรเน้นเฉพาะ 3 ประเด็นก็เพียงพอจะทำให้ผู้ฟังจดจำได้ง่ายกว่าพูดหลายประเด็น
และยิ่งไปกว่านั้นถ้าผู้พูดคิดเป็นภาพพูดจากภาพในใจจะทำให้พูดด้วยอารมณ์ความรู้สึกผู้ฟังก็จะได้อารมณ์ความรู้สึกตามไปด้วย อันนี้สำคัญมากสำหรับดิชั้น เพราะว่าแต่ก่อนเวลาพูดชอบท่องสคริปต์ แต่หลังจากนึกสิ่งที่ต้องพูดเป็นภาพ และประเด็นที่ต้องการสื่ออกไป ทำให้พูดได้เป็นธรรมชาติและเข้าใจง่ายขึ้น
ผู้พูดจะมีเสน่ห์มากขึ้นถ้าทำให้การเล่าเรื่องสนุกคล้ายกับชวนผู้ฟังดูภาพยนตร์...แน่นอนภาพยนตร์แต่ละเรื่องก็มีพระเอกผู้ร้ายให้เราลุ้นตอนจบว่าจะลงเอยอย่างไร
ผู้ร้ายเปรียบเสมือนปัญหาหรือสถานการณ์ขณะนั้นพระเอกก็เหมือนกับแนวทางการแก้ปัญหาส่วนจะลงเอยอย่างไรนั้นตอนจบคือผลลัพธ์หลังจากแก้ปัญหานั้นแล้วสุดท้ายอาจทิ้งท้ายให้ท่านผู้ฟังขบคิดว่าจะนำไปทำอะไรต่อไป
ในคอร์สนี้นั้น ได้พบกับผู้เข้าเรียนที่มีหลากหลายพื้นฐานการพูด ตั้งแต่พูดเก่งมาก จนกระทั่งเขินมากขนาดเป็นลมเลยก็มี แต่ทุกคนล้วนเป็นกันเองให้กำลังใจ วิจารณ์แบบสร้างสรรค์ พร้อมทั้งได้รับคำแนะนำดี ๆ จากอาจารย์ทุกช่วงอีกด้วย
บรรยากาศคอร์ส Arts and Feelings of Presentation |
บรรยากาศอาหาร กลางวัน |
บทสรุป
การพัฒนาตัวเองในแต่ละด้านนั้น ยังมีที่ให้พัฒนาได้เสมอ การได้เข้าอบรมนี้ทำให้ดิชั้นได้ทราบว่า การพูดของดิชั้นที่ถือว่าโอเคระดับหนึ่งแล้วนั้น ยังสามารถพัฒนาได้อีกหลายด้าน สามารถใส่สีสัน ลูกเล่น และเข้าใจคนดู พร้อมทำให้คนดูจดจำเราได้มากขึ้น สามารถนำไปใช้ทั้งในชีวิตประจำวัน การทำงาน และการทำวีดีโอรีวิวได้ด้วยค่ะ ใครที่ต้องการพัฒนาตนเองในด้านการพูด ได้พบกับอาจารย์ที่มีความสามารถ และได้พบเพื่อนใหม่จากหลากหลายวงการ ลองเข้าไปดูรายละเอียดคอร์สดูได้นะคะ...
Arts and Feelings of Presentation - JUICY and JAZZ!! |
พบกันใหม่ Post หน้าค่ะ สวัสดี
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
Facebook คอร์ส Arts and Feelings of Presentation
ระยะเวลาอบรม 2 วัน รวมเอกสาร อาหารว่าง และอาหารกลางวัน
Facebook คอร์ส Arts and Feelings of Presentation
ระยะเวลาอบรม 2 วัน รวมเอกสาร อาหารว่าง และอาหารกลางวัน
https://www.facebook.com/pages/Arts-and-Feelings-of-Presentation/112847505398483
Facebook วิทยากร จิตรสุมาลย์ อมาตยกุล
https://www.facebook.com/jitrsumarn
Facebook วิทยากร จิตรสุมาลย์ อมาตยกุล
https://www.facebook.com/jitrsumarn
COMMENTS